วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ (TIV) ป้องกัน คุ้มค่า ครอบคลุมสายพันธุ์หลัก แนะนำฉีดทุกปี

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันและลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนสายพันธุ์ในแต่ละปีจึงแนะนำให้ฉีดเป็นประจำทุกปี  ทั้งนี้ในปี 2025 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ปรับมาตรฐานใหม่ แนะนำให้ใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ (Trivalent Influenza Vaccine: TIV)  แทนชนิด 4 สายพันธุ์ (QIV) 

 

โดยวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ (TIV) ยังมีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกัน ครอบคลุมไวรัสสายพันธุ์หลัก ที่มีแนวโน้มแพร่ระบาดในแต่ละปี จากการเฝ้าระวังขององค์การอนมัยโลก (WHO) พบว่าตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ไม่พบไวรัสสายพันธุ์ B/Yamagata ทั่วโลก ทำให้ WHO ประกาศว่า ไม่จำเป็นต้องรวมสายพันธุ์ B/Yamagata ในวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่อีกต่อไป

 

วัคซีนชนิด 3 สายพันธุ์ (TIV) คือวัคซีนที่พัฒนาให้สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่

  • Influenza A/Victoria (H1N1)
  • Influenza A/Croatia (H3N2)
  • Influenza B/Austria (สายพันธุ์ Victoria)

 

ทั้ง 3 สายพันธุ์นี้ เป็นสายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกคาดว่าจะเป็นสาเหตุหลักของการระบาดในปีนี้

 

ทำไมปีนี้จึงแนะนำวัคซีน 3 สายพันธุ์? การเปลี่ยนจาก 4 สายพันธุ์มาเป็น 3 สายพันธุ์ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของวัคซีนลง แต่เป็นการปรับให้ “ตรงจุด” และ “คุ้มค่า” มากขึ้น โดยเน้นสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มระบาดจริง ซึ่งมีข้อมูลวิจัยสนับสนุนว่าเพียงพอในการป้องกันโรคในกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว

 

จุดเด่นของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ (TIV)

  • ครอบคลุมสายพันธุ์หลักที่ระบาดในแต่ละปี วัคซีนถูกออกแบบตามข้อมูลการระบาดทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์หลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดความรุนแรงของโรคและภาวะแทรกซ้อน แม้จะติดเชื้อ แต่ผู้ที่ได้รับวัคซีนมักมีอาการน้อยลง และลดโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม หูชั้นกลางอักเสบ หรือภาวะหายใจล้มเหลว
  • คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ราคาวัคซีนที่จับต้องได้ ทำให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงในชุมชน
  • มีข้อมูลวิจัยรองรับ การศึกษาจากหลายประเทศยืนยันว่าประสิทธิภาพของวัคซีนชนิด 3 สายพันธุ์ไม่ด้อยไปกว่าวัคซีน 4 สายพันธุ์ และยังมีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกันโรคในกลุ่มเสี่ยงได้

 

ใครควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่?

  • เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป
  • ผู้สูงอายุ (≥ 65 ปี)
  • หญิงตั้งครรภ์
  • บุคลากรทางการแพทย์
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ ปอด หอบหืด
  • ผู้ที่อยู่รวมกันในชุมชน เช่น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หรือเรือนจำ

 

แม้ไวรัสไข้หวัดใหญ่จะเปลี่ยนแปลงทุกปี แต่คุณก็สามารถป้องกันตัวเองและคนที่คุณรักได้ ด้วยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ ที่ได้รับการอัปเดตล่าสุดในปี 2025 ทั้งมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมโรค และเข้าถึงง่าย

 

คลิก >> วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธ์ุใหม่ 2025